12.8.52

365 วัน คือ วันแม่

"รักนะแต่ไม่แสดงออก" "แม่" เป็นแบบนี้ จริง ๆ แม่จะไม่แสดงออกด้วยคำพูด ไม่เคยบอกคำว่ารัก แต่ทุกการกระทำของแม่ ที่ทำทุก ๆ อย่างให้กับเรา ทำให้เรารู้ว่า แม่รักเราที่สุดแล้ว

ตั้งแต่เราจำความได้ ภาพของ "แม่" ที่เราจำได้เสมอ คือ "แม่" เป็นผู้หญิงเก่ง แกร่ง และ สู้ชีวิต แม่ต้องสูญเสียสามีสุดที่รัก (พ่อของเรา) ตอนที่แม่ยังสาว ยังสวย อายุแค่ 27 ปี ตอนนั้นเราอายุ 3 เดือน ส่วนพี่ชาย 4 ขวบ แม่เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาก ๆ ผู้หญิงอายุ 27 ปี ต้องลุกขึ้นมาเป็นหัวหน้าครอบครัว เลี้ยงลูกถึง 2 คน ด้วยน้ำพักน้ำแรง แม่เป็นทั้งพ่อ และ แม่ เรานับถือหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของแม่มาก ๆ แม่ไม่ยอมแต่งงานใหม่ แม่ไม่ยอมมีใคร หัวใจของแม่ มีแต่พ่อคนเดียว ถึงจะผ่านมา เกือบ 32 ปีแล้วแต่ เราเชื่อว่าแม่ก็คงยังรักพ่อไม่เสื่อมคลาย พ่อได้ทิ้งตัวแทนไว้ให้แม่ ก็คือ "เรา" ที่เหมือนพ่อ ถอดแบบพ่อมาทุกอย่าง เราคงทำให้แม่ หายคิดถึงพ่อได้บ้าง


แม่จะมีวิธีการสอนโดยไม่ต้องใช้คำพูด หลาย ๆ ครั้งเวลาที่แม่ไปขายของ แม่ก็จะพาเราไปด้วยเสมอ นี่คือวิธีการสอนของแม่ แม่ทำให้เรารู้ว่า กว่าที่แม่จะได้เงินมาเลี้ยงลูก ๆ ต้องทำงานหนักแบบนี้นี่เอง 2 ครั้งที่แม่เคยพาเราไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ ประจำจังหวัด ซึ่งหรูหรามากสมัยเมื่อ 20 กว่าปี เรื่อง "วัลลีเด็กหญิงยอดกตัญญู" เด็กหญิงเป็ดร้องไห้ทั้งเรื่อง หรือแม้แต่ การที่แม่พาไปดูหนัง เรื่อง "ช้างเพื่อนแก้ว" ตอนเด็ก ๆ เราก็แค่รู้สึกว่าหนังแต่ละเรื่องที่แม่พามาดูในโรง มันต้องพิเศษ กว่าการไปดูตามงานวัดแน่นอน พอเราโตขึ้นแล้วมองย้อนกลับไปนึกถึง มันพิเศษจริง ๆ เพราะ ทำให้เรารู้สึกว่า นี่คือ "สุดยอดสื่อการสอนของแม่"เลย สอนทั้งในเรื่องของความกตัญญู ความเป็นลูกที่ดี ตั้งใจเรียน ความมีเมตตา ความเอื้ออารี


เราเป็นคนที่sensitive มาก เรื่อง แม่ จำได้ว่าครั้งหนึ่ง ตอนที่ ปวช. อาจารย์ให้เป็นตัวแทน นักศึกษา ในการอ่านคำสดุดีพระคุณแม่ เราอ่านไปร้องไห้ไป ร้องไห้สะอึกสะอื้น พอถึงคิวที่ต้องไปกราบแม่ แม่เอามือลูบหัวลูบหลัง ด้วยความรักและเอ็นดู "ทำไมขี้แยแบบนี้"


ตอนจบปวช. เราได้โควต้า ไปเรียนต่อที่เชียงใหม่ เราเลือกที่จะไม่ไป เพราะไม่อยากให้แม่ลำบากส่งเราเรียน แล้วเราก็เลือกที่จะไม่เรียนต่อด้วย อยากทำงาน อยากมีเงินให้แม่ ตอนนั้นคิดแบบนี้จริง ๆ ทั้งอาจารย์ และ เพื่อน ๆ งง กับการตัดสินใจของเรา ไม่มีใครเชื่อว่า เด็กที่เรียนดีติดอันดับ 1 ใน 3 ของวิทยาลัย จะยอมทิ้งโอกาสในการเรียนต่อแบบนี้ เราว่าดีซะอีก เพราะการที่เราสละสิทธิ์เพื่อนที่ติดสำรองก็ได้ไปเรียนแทน ทุกอย่างมันขีดเส้นมาแล้ว แม่ก็ไม่เคยห้าม ไม่เคยบังคับ แม่บอก อยากไปทำงานก็ไป แล้วค่อยกลับมาเรียน


ปีแรกที่มาทำงาน อยู่กับพี่ชาย เรากลับบ้านทุกอาทิตย์ อยุธยา-อุตรดิตถ์ อยุธยา-อุตรดิตถ์ คิดถึงแม่มาก เคยมีครั้งหนึ่งที่กลับมาหาแม่ อยู่บ้าน 2 วัน แล้วต้องกลับไปทำงานต่อ แม่ไปส่งเรารอขึ้นรถที่ บขส. พอแม่กลับบ้านไปแล้ว เราร้องไห้ คิดถึงแม่ ก็เลยนั่งรถแท็กซี่ตามไป พอแม่เจอหน้าเรา แม่งงมาก ว่าทำไมถึงไม่กลับไปทำงาน เราต้องโกหกแม่ว่า รถมันเต็ม เดี๋ยวค่อยกลับพรุ่งนี้ก็ได้ จริง ๆ อยากอยู่กับแม่นาน ๆๆ รักนะแต่ไม่พูด พอกัน


ทำงาน 2 ปี มีเงินให้แม่ มีเงินซื้อของให้แม่ มีเงินเก็บ อยู่นิดหน่อย น่าจะพอใช้เรียนต่อปริญญาตรีได้ซักปี 2 ปี โดยที่ไม่ต้องรบกวนเงินแม่ เลยลองไปสอบดู ปรากฎ ว่า ติด ทั้ง 2 สถาบัน ของอยุธยา วันที่แม่ลงมา กำลังจะพาไปมอบตัวนักศึกษา แต่เราก็ตัดสินใจในเช้าวันนั้นว่า ไม่เรียนที่นี่ดีกว่า จะกลับไปเรียนต่อที่บ้านเรา เดาว่า แม่คงดีใจมาก ๆๆๆๆ


ตอนเรียน วิชาถ่ายภาพ ทุกคนจะต้องมีกล้องถ่ายรูปเป็นของตัวเอง เราขอแม่ซื้อกล้อง Nicon แต่ต้องมาซื้อที่ร้านนิกส์ที่กรุงเทพฯเท่านั้น แม่ยินยอม แต่ไม่ยอมให้ถือเงินมา ให้โอนใส่บัญชีก็ไม่ยอม แม่นั่งรถทัวร์มาด้วยกัน ซ่อนเงินมาอย่างดี พอถึงหมอชิต แม่ให้เงินเราไปซื้อกล้อง แล้วแม่ก็นั่งรถทัวร์กลับ แม่มาเพื่อถือเงินมาให้แค่นั้นจริง ๆ เพราะแม่กลัวลูกโดนล้วงกระเป๋า สงสัยดูละครมากไปหน่อย หรือ ไม่ก็ต้องคิดว่าลูกตัวเองเป็นกระเหรี่ยงเข้ากรุง 5555 แล้วพอเราซื้อกล้องมาแล้ว แม่เห่อ มาก ๆ พอ ๆ กับเรา เรียก ป้า ๆ น้า ๆ เด็ก ๆ คนข้างบ้าน แต่งตัวสวย ๆ มาเป็นแบบถ่ายรูปกันสนุกสนาน....แล้วเก็บเงิน รูปละ 10 บาท หัวการตลาดมาก ๆ ใครมีงานแต่ง งานบวช งานศพ ติดต่อได้ เดี๋ยวให้ลูกไปถ่ายให้.....เป็น เจ๊ดันสุดฤทธิ์


สิ่งที่เราคงพอจะทำได้เพื่อให้แม่ได้ภาคภูมิใจก็คือ การเป็นลูกที่ดี ไม่ทำให้แม่หนักใจ และพยายามตั้งใจเรียน รางวัลต่าง ๆ ที่ได้ รู้นะว่าลึก ๆ แม่ ก็คงภูมิใจ ตอนเรียน เพื่อนชวนให้สอบชิงทุนไปญี่ปุ่น วันสัมภาษณ์ อาจารย์ให้เล่าเรื่องครอบครัว พอพูดถึงแม่เท่านั้น ร้องไห้ไม่หยุด อาจารย์บอกว่า "แม่หนูเก่งมากเลยนะที่เลี้ยงหนูมาจนขนาดนี้ได้...ถ้าครูเป็นแม่หนู ครูต้องภูมิใจในตัวหนูมาก ๆ เลย" เรายิ้มทั้งน้ำตา แล้วก็คิดในใจ "แม่หนูก็ภูมิใจแต่ไม่แสดงออกค่ะ"


ตอนเราเรียนจบ แม่ไม่เข้าใจ ว่า "เกียรตินิยม" คืออะไร ได้มาเพราะอะไร ก็เลยอำไปว่า จับฉลากได้มา ใครจับได้ จะได้นั่งแถวหน้า ได้รับปริญญาเป็นคนแรก ๆๆ ก่อนใคร 55555 แม่ก็เชื่อด้วย


มีหลาย ๆๆๆๆ เรื่อง หลาย ๆๆๆ เหตุการณ์ ที่แม่ทำให้เราซาบซึ้งใจมาก ๆ แม่ไม่ได้รักแค่เราคนเดียว แต่แม่ยังรักทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเราด้วย คอยช่วยเหลือเสมอ นานมาก ๆ แล้ว แฟนเก่าของเรา รถเสีย เรากลับบ้านไปขอยืมเงินจากแม่ หลายหมื่น มาให้เค้า จริง ๆ แม่ไม่ต้องให้ก็ได้ เพราะแม่ไม่จำเป็นต้องมารับผิดชอบชีวิตคนอื่น แต่แม่ก็เลือกที่จะให้ เพราะแม่คิดว่า คนนั้น เป็นคนที่ลูกแม่รัก และ เขาก็คงจะรักลูกของแม่ แม่บอกว่า "เอาสร้อยแม่ไปเลย เดี๋ยวแม่ซื้อใหม่ก็ได้ มีเงินเมื่อไหร่ค่อยเอามาคืน เราตื้นตันใจสุดจะบรรยาย แม้แต่เงินหลักแสนแม่ก็ให้ได้โดยไม่มีข้อแม้เลย แต่สุดท้ายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เราตลอดเวลา ในยามที่เราสุข และ ทุกข์ ก็คือ แม่ของเรานี่แหละ "อะไรที่ลูกคนนี้จะสามารถทำเพื่อแม่ได้....อยากให้แม่รู้ไว้ว่าลูกอยากจะทำ"




เวลาทำรายการทีวี แล้วต้องเชิญ แม่ที่ได้รับรางวัลแม่ดีเด่น มาสัมภาษณ์ในรายการ อยากจะบอกให้โลกรู้ว่าเหลือเกินว่า ยังมีแม่อีกคน ที่สมควรได้รับรางวัลแม่ดีเด่นอย่างยิ่ง คือ แม่ของเรานี่แหละค่ะ



ขอบคุณแม่...ที่มอบชีวิตให้ลูกได้กำเนิดเกิดขึ้นมา


ขอบคุณแม่...ที่รักลูกอย่างไม่มีเงื่อนไข


ขอบคุณแม่...ที่เลี้ยงลูกมาอย่างดีที่สุดของแม่


ขอบคุณแม่...สอนสิ่งดี ๆ ให้กับลูก


ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เราได้เป็นแม่ลูกกัน



วันแม่ไม่ได้มีแค่วันที่ 12 สิงหา วันเดียวเท่านั้น แต่ทุก 365 วัน คือ วันแม่ รักแม่เน้อ...อออออออออ


Love me love my mom

ps. เพราะ sensitive เรื่องแม่ ก็เลยต้องเขียนวันละนิดวันละหน่อย เขียนไป ก็ร้องไห้ไป...ซึ้ง

3 ความคิดเห็น:

  1. เสียดายรูปคุณแม่ไม่ค่อยชัดเนอะ

    ^^

    ตอบลบ
  2. บอกแล้วค่ะ

    แต่พึ่งได้บอกเมื่อกี้นี่เอง

    Y^Y

    ตอบลบ
  3. อ่านไปรอบนึงแล้วค่ะ

    แต่อ่านจากมือถือ เลยเม้นท์ไม่ได้

    คุณแม่น่ารัก แสนดี อดทนมากกกก

    รู้สึกโชคดีเนอะที่ได้เป็นลูกของแม่

    กี้เองก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหมือนกันที่มีแม่คนนี้อ่ะค่ะ ^^

    ตอบลบ